Error handling
What is Error handling?
Error handing คือ การจัดการข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่โดยทั่วไปแล้วไม่สามารถจัดการภายในโปรแกรม เมื่อเกิด Error ขึ้นอาจส่งผลให้การทำงานของโปรแกรมล้มเหลว เช่น หน่วยความจำไม่พอ เวอร์ชันการทำงานของ library ไม่ถูกรองรับ การเปิดไฟล์ที่ไม่มีอยู่จริง เป็นต้น จึงต้องมีการเขียน Error handling เพื่อแสดงสาเหตุของข้อผิดพลาดนั้นและทำให้โปรแกรมสามารถทำงานต่อไปได้
Different methods of Error handling
การเขียนโปรแกรมภาษา C ไม่ได้มีการสนับสนุนการจัดการข้อผิดพลาด (Error handling) โดยตรง ผู้ออกแบบโปรแกรมต้องทำการเขียนขึ้นมาเอง โดยการใช้คำสั่ง return ส่งคืนค่า -1 หรือ NULL ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด และสามารถเขียน Error handling ด้วยการใช้ 'คำสั่ง if' ดังตัวอย่าง การหารด้วย 0 (Divide by Zero Errors) ดังต่อไปนี้
// err_p1_1.c
#include <stdio.h>
int solution(int a,int b)
{
if (b > 0) {
return a / b;
}
return -1;
}
int main() {
printf("%d\n",solution(102,0));
printf("%d\n",solution(955,5));
printf("%d\n",solution(1650,2));
return 0;
}// err_p1_2.cpp
#include <iostream>
using namespace std;
int myFunction(int a,int b) {
if (b == 0) {
return -1;
}
return a/b;
}
int main() {
cout << myFunction(102,0) << endl;
cout << myFunction(955,5) << endl;
cout << myFunction(1650,2) << endl;
return 0;
} อย่างที่รู้กันว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถคำนวณค่าที่เกิดจากการหารด้วย 0 เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงานและไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าโปรแกรมสามารถทำงานต่อไปได้ด้วยการเขียน Error handling return ค่า -1
ข้อเสียของการส่งค่า return คือ จะทำให้คนอื่นนอกจากผู้ออกแบบโปรแกรมไม่ทราบว่าค่า -1 ที่ถูก return กลับมานั้นเกิดจากสาเหตุอะไร จึงได้มีการตั้งค่ารหัสตัวแปรส่วนกลาง (Global Variable) เพื่อระบุว่ารหัสตัวแปรที่ปรากฏเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งสามารถค้นหารหัสตัวแปรข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่กำหนดไว้จาก <errno.h> ที่เป็น header file เรียกวิธีนี้ว่า Global Variable errno
Global Variable errno
Global Variable errno ถูกตั้งค่าเป็นตัวแปรส่วนกลางและระบุว่ามีข้อผิดพลาดอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการเรียกใช้ฟังก์ชันใด ๆ ซึ่งสามารถค้นหารหัสตัวแปรข้อผิดพลาดที่กำหนดไว้จาก <errno.h> (ภาษา C++ สามารถเรียกใช้ได้ทั้งแบบ <errno.h> และแบบ <cerrno>) ดังนั้นโปรแกรมเมอร์สามารถตรวจสอบค่าที่ส่งคืนและสามารถดำเนินการที่เหมาะสมโดยขึ้นอยู่กับค่าที่ส่งคืน ดังตารางต่อไปนี้

errno value จะไม่มีเลข 0 เนื่องจากเลข 0 หมายถึงไม่มีข้อผิดพลาดในโปรแกรม
จากตัวอย่างจะเห็นว่าค่าตัวแปร errno ที่ถูกส่งออกมา คือ 2 หมายความว่า โปรแกรมไม่สามารถเปิดไฟล์ที่ต้องการ เนื่องจากไม่มีไฟล์หรือไดเร็กทอรีดังกล่าว
ข้อเสียของการให้ส่งค่าตัวแปรแสดงข้อผิดพลาดเพียงอย่างเดียว คือจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการหาคำอธิบายข้อผิดพลาด ดังนั้นจึงได้มีฟังก์ชัน perror() และ strerror() เข้ามาช่วยในการแสดงข้อผิดพลาด
คำถาม คำสั่ง FILE *fp และ fopen คืออะไร
คำตอบ เป็นรูปแบบการประกาศแฟ้มข้อมูลและเปิดแฟ้มข้อมูล
ข้อมูลอ่านเพิ่มเติม :: พื้นฐานการทำงานของไฟล์
perror() and strerror()
perror() ย่อมาจาก print error เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการแสดงข้อความของค่า errno ปัจจุบัน โดยที่สามารถแสดงข้อความที่กำหนดไว้ ก่อนการแสดงข้อผิดพลาด
strerror() คือ ฟังก์ชันที่ใช้รับค่าตัวแปรของ errno เพื่อ return ข้อมูลประเภท string มาแสดงผลข้อผิดพลาด
Exit Status
Exit Status จะต่างจาก errno, perror() และ strerror() ที่เป็นการแสดงผลข้อผิดพลาด เพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานต่อไปได้ แต่ Exit Status เป็นคำสั่งที่ใช้ในการออกจากโปรแกรม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Exit Success และ Exit Failure ซึ่งต้องทำการ include ก่อน จึงจะสามารถใช้คำสั่ง exit()
1. Exit Success คือ การออกจากโปแกรมที่ไม่เกิดข้อผิดพลาด สามารถเลือกใช้ได้ 2 แบบ ดังต่อไปนี้
สร้างไฟล์ file.txt ก่อน run code ดังต่อไปนี้
2. Exit Failure คือ การออกจากโปรแกรมที่เกิดข้อผิดพลาด สามารถเลือกใช้ได้ 2 แบบ ดังต่อไปนี้
สำหรับ exit(EXIT_FAILURE) สามารถใช้จำนวนเต็มอื่นที่ไม่ใช่ 1 เพื่อระบุข้อผิดพลาดประเภทต่างๆ
แหล่งอ้างอิง ::
Last updated
Was this helpful?