Shell Principles
เชลล์ (Shell)
shell เป็นตัวกลางในการรับคำสั่ง (Command Line) จากผู้ใช้แล้วจะทำการแปลชุดคำสั่ง (Command Line Interpreter - CLI) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา โดยขบวนการภายในตัว shell จะซ่อนรายละเอียดอันซับซ้อนของระบบปฏิบัติการเอาไว้ โดยที่ผู้ใช้จะไม่รู้ว่าหลังจากที่ป้อนคำสั่งไปแล้วภายในจะต้องมีขบวนการเช่นไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการทราบหน่วยความจำที่เหลือหรือพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ที่เหลืออยู่ ผู้ใช้เพียงพิมพ์คำสั่ง free/df ตัว shell ก็จะทำหน้าเชื่อมต่อและเข้าไปจัดการในหน่วยความจำหรือฮาร์ดดิสก์ให้ตรวจสอบตัวเองว่าขณะนี้มีการใช้งานเก็บข้อมูลไปเท่าไหร่แล้วและเหลือพื้นที่ให้ใช้งานได้อีกเท่าไหร่ ซึ่งขบวนการดังที่ได้กล่าวข้างต้นเป็นการติดต่อสื่อสารในระดับล่างที่เรียกว่าระดับเคอร์เนล ซึ่งถือได้ว่าเป็นแกนกลางสำคัญในการควบคุมการทำงานระบบทั้งหมดภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะกล่าวถึงรายละเอียดของเคอร์เนลในบทถัดๆไป
นอกจากนั้น shell ยังสามารถรองรับการเขียนชุดคำสั่งมากกว่าหนึ่งคำสั่งพร้อมกัน และสามารถรับชุดคำสั่งล่วงหน้าให้ทำงานตามเงื่อนไขต่างๆที่ได้กำหนดไว้ในลักษณะสคริปท์ (Script) ที่ถูกเก็บลงในไฟล์ได้ ทำให้เพิ่มความสะดวกและมีประสิทธิภาพในการใช้งานระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ โดยเฉพาะผู้ใช้ที่มีทักษะอยู่ระดับหนึ่งในการเขียนสคริปท์หรือที่เรียกกันว่าเชลล์สคริปท์ (Shell script) นั้น และนอกจากนั้นลูกเล่นความสามารถจะมากน้อยเพียงใดก็ยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือรุ่นโปรแกรม shell นั้นด้วย ในปัจจุบัน shell ที่มีอิทธิพลและเป็นที่นิยมมากที่สุดตัวหนึ่งคือ Bourne shell (ปัจจุบันกลายเป็น Bourne Again shell) และ C shell
ปฏิบัติ
Link: Command line interface
BDH Shell for PSOC™ 6S2
BDH Shell is developed and customized based on NT-Shell (Natural Tiny Shell) is a C library for embedded systems. It provides VT100 compatible terminal control feature and needs only serial read/write functions for the porting.
Features
Compatible with VT100
Really simple.
The API has only three functions.
It consists of only three small modules.
Highly portable.
Compatible with C89.
No dependencies. (even libc!)
No dynamic memory allocation. (no need a operating system!)
Small code foot print.
ROM: 10KB
RAM: 1KB
Edit Controls
Ctrl + A or Home
ย้าย cursor ไปที่ต้นบรรทัด
Ctrl + E or End
ย้าย cursor ไปที่ปลายบรรทัด
Ctrl + F or Right arrow
ขยับ cursor ไปข้างหน้าโดยข้ามไปทีละคำ (word)
Ctrl + B or Left arrow
ขยับ cursor ถอยหลังโดยข้ามไปทีละคำ (word)
Ctrl + L
ล้างหน้าจอ terminal คล้ายกับคำสั่ง clear
Ctrl + R
ค้นหาคำสั่งที่เคยพิมพ์มาก่อนหน้านี้
Ctrl + C
หยุดการทำงานของโปรแกรม
Ctrl + D or Delete
logout หรือออกจากคำสั่งที่กำลังทำงานอยู่
Ctrl + P
ค้นหาคำสั่งแบบย้อนหลัง หรือ History search (backward)
Ctrl + N
ค้นหาคำสั่งแบบไปข้างหน้า หรือ History search (forward)
TAB
เติมเต็มคำสั่งที่เคยเรียกใช้อัตโนมัติ
Basic Commands
mkdir
ใช้สร้างไดเรกทอรี่ใหม่
mkdir (ชื่อไดเรกทอรี่)
เช่น mkdir test1
cd
การเข้าสู่ไดเรกทอรี่ที่ต้องการ
cd (ไดเรกทอรี่ที่ต้องการเข้า)
เช่น cd test1
touch
ใช้สร้างไฟล์ หรืออัพเดตเวลาการแก้ไขไฟล์ล่าสุด
touch test.txt
touch -m test.txt
ls
แสดงไฟล์ที่อยู่ในไดเรกทอรี่
ls
cp
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการคัดลอกไฟล์
(ทั้งไฟล์เดียวและหลายไฟล์)
โดยระบุ source และ target
cp (ชื่อไฟล์) (ที่อยู่ที่ต้องการคัดลอกไฟล์ไปไว้)
เช่น cp test.txt test1
คือการ copy file ชื่อ test.txt ไปไว้ในไดเรกทอรี่ test1
mv
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการโยกย้ายไฟล์ หรือ
เปลี่ยนชื่อไฟล์
mv (ชื่อไดเรกทอรี่เดิม) (ชื่อไดเรกทอรี่ใหม่ที่ต้องการย้ายไป)
mv file.txt /test1
เปลี่ยนชื่อไฟล์ mv (ชื่อเก่า) (ชื่อใหม่)
mv file.txt newfile.txt
rm
ใช้ในการลบไฟล์โดยสามารถใช้ได้ทั้ง
ไฟล์เดียวหรือหลายไฟล์
rm (ตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการลบ)
rm test1.txt
rmdir
ใช้ลบไดเรกทอรี่ ซึ่งสามารถลบได้
เฉพาะไดเรกทอรีว่างเท่านั้น
rmdir directory_name
echo
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงข้อความใดๆ
ที่ต้องการให้ถูกปรากฏบนหน้าต่างเทอร์มินัล หรือสามารถใช้แทรกข้อความลงในไฟล์ได้
echo (ข้อความที่ต้องการแสดง)
echo Hello
echo this is message >> test.txt
cat
ใช้แสดงข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ออกมา
แสดงครั้งเดียวพร้อมกันทั้งหมด ในบางครั้งก็
ใช้ในการรวมไฟล์หลายไฟล์เข้าด้วยกันมา
เป็นไฟล์เดียว และสามารถใช้สร้างไฟล์
cat (ไฟล์.txt)
เช่น cat test.txt
clear
ล้าง terminal ให้อยู่ใน init state
clear
df
แสดง ผลได้ทั้งจำนวนพื้นที่ที่มีการใช้งาน
ไปแล้วในระบบ และพื้นที่ว่างที่สามารถใช้งาน
df -h
du
คำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบขนาดการใช้งาน
ไดเรกทอรีที่ชี้อยู่ (mount point) รวมถึง
ไดเรกทอรีย่อยๆลงไปจากตำแหน่งปัจจุบัน
du -h
pwd
แสดงไดเรกทอรี่ที่กำลังใช้งาน
pwd
ifconfig
ตรวจสอบว่ากำลังใช้ Network Interface
Card (NIC) หมายเลขตัวใดอยู่ เช่น eth0
หรือ eth1 เป็นต้น
ifconfig
tar
ใช้สำหรับแตกไฟล์นามสกุล tar
และบีบอัดไฟล์หรือไดเรกทอรี่ให้เป็น
ไฟล์นามสกุล tar
tar cvf (ชื่อไฟล์.tar) (ไดเรกทอรี่หรือไฟล์ที่ต้องการบีบอัด)
เช่น tar cvf test1.tar test1
คำสั่งแตกไฟล์ tar
tar xvf test1.tar
chmod
การกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์
โดยแบ่งสิทธิ์ไว้ 3 กลุ่มคือ Owner Group
publie ซึ่งจะแทนตัวเลข 0-7 ในการกำหนด
สิทธิ์ของแต่ละกลุ่ม เช่น 644 (เลขฐานแปด)หรือเทียบเท่ากับ rw-r--r-- หมายถึง เจ้าของอ่านและเขียนได้ แต่คนอื่น
ทั่วไปอ่านได้อย่างเดียว
chmod (กำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) (ชื่อไฟล์)
เช่น chmod 644 test
uname
แสดงชื่อของระบบปฏิบัติการที่ใช้งานอยู่
uname -a
ps aux
ใช้แสดงรายการประมวลผลต่างที่กำลัง
ทำงานอยู่ของระบบแบบระเอียด
ps aux
kill
การส่งสัญญาณเข้าไปขัดจังหวะโปรเซส
เพื่อบอกกับโปรเซสตามวัตถุประสงค์ของสัญญาณ้ส่งไป สามารถดูตัวเลข process
ได้จาก คำสั่ง kill -l
kill (ตัวเลข process) (PID)
เช่น kill –9 203
zip
ใช้บีบอัดไฟล์เป็นนามสกุล zip
zip (ชื่อไฟล์.zip) ไฟล์ที่ต้องการzip
เช่น zip test.zip test
unzip
ใช้แตกไฟล์นามสกุล zip
unzip (ไฟล์.zip)
เช่น unzip test.zip
sudo su
ใช้เมื่อผู้ใช้ต้องการเข้าในฐานะผู้ดูแลระบบ
ที่เรียกว่า Superuser หรือ root
sudo su
Last updated