Last updated
Was this helpful?
Last updated
Was this helpful?
การค้นหาไฟล์ในระบบปฏิบัติการลีนุกซ์สามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในคำสั่งที่ได้รับความนิยมคือคำสั่ง find เพราะมีความยืดหยุ่นสูงในการค้นหาไฟล์แต่ละชนิดดังตารางแสดงพารามิเตอร์ (parameter) เพื่อใช้ระบุชนิดไฟล์ที่ต้องการค้นหา
ตารางสัญลักษณ์บอกชนิดไฟล์
ในกรณีที่ต้องการระบุให้ค้นหาเฉพาะไฟล์ทั่วไป (f) หรือ ไดเรกทอรี (d) สามารถใช้ตัวเลือก -type เพื่อระบุประเภทได้ดังตัวอย่างข้างล่าง
ในกรณีที่ต้องการค้นหาไฟล์หรือไดเรกทอรีที่ถูกซ่อนอยู่
เนื่องจากระบบไฟล์ภายใต้ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์จะเป็นแบบ case sensitive (สนใจตัวพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่) ดังนั้นในการค้นหาไฟล์ที่ใกล้เคียงทั้งหมดโดยไม่สนใจกรณี case sensitive สามารถระบุโดยการใช้ -iname เข้าไปดังตัวอย่างข้างล่าง
การระบุระดับความลึกของชั้นไดเรกทอรีในการค้นหา สามารถทำได้โดยการใช้ -mindepth [level] และ -maxdepth [level] ตัวอย่างเช่น ต้องการค้นหาตั้งแต่ไดเรกทอรี root (level 1) และลึกลงไปอีก 2 ชั้น (level 2 - level 3) สามารถใช้คำสั่งดังนี้
เมื่อต้องการระบุว่าให้ค้นหาไฟล์ที่อยู่เฉพาะระดับความลึกที่ 2 ถึง 4 (level 2 - level 4)
การค้นหาด้วยคำสั่ง find แต่ละครั้ง สามารถตั้งชุดคำสั่งพิเศษหลังตัวเลือก -exec ในกรณีที่เจอไฟล์ตามที่ต้องการค้นหา ตัวอย่างเช่นให้ทำการเช็คค่า checksum ไฟล์ที่เจอด้วยคำสั่ง md5sum
ถ้าต้องการระบุการค้นหาตามสิทธิ์ของไฟล์นั้น (file permission) สามารถใช้ -perm ได้ดังตัวอย่างข้างล่าง
หรือระบุเป็นเลขฐานแปด (Octal)
งานด้านระบบสมองกลฝังตัวขนาดของไฟล์ข้อมูลค่อนข้างเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากพื้นที่เก็บข้อมูลมีขนาดจำกัด ดังนั้นการนำคำสั่ง find มาประยุกต์ใช้เพื่อค้นหาไฟล์ตามขนาดไฟล์ที่ต้องการจึงมีความสำคัญเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
เมื่อต้องการค้นหาไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ 5 อันดับแรก
หรือขนาดเล็กสุด 5 อันดับแรก แต่ไม่ต้องการรวมไฟล์ที่มีขนาดศูนย์ไบต์ (Empty file)
ในกรณีที่ต้องการระบุขนาดไฟล์ (byte) อย่างชัดเจน สามารถใช้ -size [byte] ดังตัวอย่างข้างล่าง
นักพัฒนาสามารถสร้างคำสั่งเฉพาะด้วย alias เพื่อความสะดวกในการค้นหาไฟล์ขนาดที่ต้องการ เพื่อลบทิ้ง ดังตัวอย่างข้างล่าง
นอกจากนั้นถ้าต้องการค้นหาไฟล์โดยดูจากเวลาของไฟล์ที่ถูกเข้าถึง (Access time) ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายใน (Modification time) หรือ มีการเปลี่ยนแปลงไอโหนด/สถานะ (Change time) สามารถระบุตัวเลือกดังรายละเอียดในตารางข้างล่าง
ตารางตัวเลือกการเข้าถึงไฟล์ของคำสั่ง find
ค้นหาไฟล์ภายในไดเรกทอรี unix ที่มีการถูกแก้ไขข้อมูลภายในไฟล์ เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา
ค้นหาไฟล์ภายในไดเรกทอรี unix ที่มีการถูกเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ไฟล์เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา
ในกรณีที่ไม่ต้องการให้แสดงผลไฟล์ที่ถูกซ่อน (hidden file) ในผลลัพธ์ของการค้นหา สามารถใช้ -regex ดังตัวอย่างข้างล่าง
ในการค้นหาไฟล์ที่ต้องการบางครั้ง ถ้าผู้ใช้ต้องการตั้งเงื่อนไขแยกเป็น 2 ส่วนคือ ตรวจสอบสิทธิ์ และตรวจสอบขนาดไฟล์ สามารถเขียนให้อยู่ในรูปแบบดังตัวอย่างข้างล่าง
คำสั่ง grep (Generalized Regular Expression Parser) เป็นคำสั่งที่มีการใช้งานบ่อยครั้งตั้งแต่ระดับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจนไปถึงบอร์ดสมองกลฝังตัวที่มีระบบปฏิบัติการลีนุกซ์อยู่ภายในโดยหน้าที่ของคำสั่งนี้คือการค้นหาข้อความที่อยู่ภายในไฟล์ที่ต้องการตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ตัวอย่างเช่น
ตารางตัวดำเนินการสำหรับคำสั่ง grep
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง grep เพื่อค้นหาคำจากผลลัพธ์ของคำสั่ง ls -al
ในกรณีที่จะใช้ตัวดำเนินการ “+” จำเป็นต้องใช้โปรแกรมรุ่นใหม่ของโปรแกรม grep คือโปรแกรม egrep (Extended Grep) ดังตัวอย่างข้างล่าง
ในกรณีที่ต้องการค้นหาตัวเลขตามจำนวนหลักที่ต้องการ สามารถใช้ตัวดำเนินการ [ ] และ {n} ดังตัวอย่างข้างล่าง
ถ้าต้องการค้นหาที่มีตัวเลขตั้งแต่ 7 หลักขึ้นไปจะใช้ตัวดำเนินการ {m, } ดังตัวอย่างข้างล่าง
การค้นหาข้อมูลภายในไฟล์ log นักพัฒนาสามารถทำการวิเคราะห์เบื้องต้นได้ด้วยตัวดำเนินการ -E ‘pattern1 | pattern2’ ดังตัวอย่างของข้อมูล log ข้างล่างนี้
สามารถใช้คำสั่ง grep เพื่อค้นหาข้อมูลภายในได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
เมื่อต้องการค้นหาคำที่อยู่ตำแหน่งต้นบรรทัด จะใช้ “^” นำหน้าคำที่ต้องการค้นหา หรือคำที่อยู่ตำแหน่งปลายบรรทัด จะใช้ “$” ต่อท้ายคำที่ต้องการค้นหา ดังตัวอย่างข้างล่าง
การค้นหาคำที่มีอักขระพิเศษอยู่ด้วยนั้น จะต้องใช้ตัวดำเนินการ \ นำหน้าตัวอักขระพิเศษเสมอ ดังตัวอย่างข้างล่าง
ตารางตัวดำเนินการเพิ่มเติมสำหรับคำสั่ง grep
จากตารางข้างต้น เป็นการระบุตัวอักขระในแต่ละประเภทเพื่อให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังตัวอย่างการใช้งานดังนี้
การรวมคำสั่งเข้าด้วยกัน ด้วยสัญญลักษณ์ที่เรียกว่า Pipe (|) โดยเอาท์พุตของคำสั่งแรกจะเป็นอินพุตของคำสั่งถัดไป จนกระทั่งถึงคำสั่งสุดท้ายที่จะแสดงผลลัพธ์สู่หน้าจอ ดังตัวอย่างการใช้ดังนี้
$ ls <ไดเรกทอรี> | grep <คำค้นหา>
f
ไฟล์ทั่วไป
d
ไดเรกทอรี
b
block
c
character
p
pipe
l
Symbolic link
s
Socket
--- Access Time ---
amin m
เวลา m นาทีที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกเข้าถึง
atime d
เวลา d*24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกเข้าถึง
--- Modification Time ---
mmin m
เวลา m นาทีที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายใน
mtime d
เวลา d*24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายใน
--- Change Time ---
cmin m
เวลา m นาทีที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกเปลี่ยนสถานะหรือค่าไอโหนด
ctime d
เวลา d*24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่ไฟล์ถูกสถานะหรือค่าไอโหนด
?
เจออย่างน้อย 1 ตัวอักขระ
*
เจออย่างน้อย 0 หรือ มากกว่าหลายตัวอักขระ
+
เจออย่างน้อย 1 หรือ มากกว่าหลายตัวอักขระ
^
ค้นหาเฉพาะขึ้นต้นบรรทัด
$
ค้นหาเฉพาะท้ายบรรทัด
[ ]
ค้นหาตัวอัขระใดตัวอักขระหนึ่งที่อยู่ใน [ ]
{n}
เจอซ้ำเป็นจำนวน n ครั้ง
{n,}
เจอซ้ำเป็นจำนวนตั้งแต่ n ครั้ง หรือมากกว่า
{n,m}
เจอซ้ำเป็นจำนวนตั้งแต่ n ครั้งจนถึง m ครั้้ง
\char
ค้นหาตัวอักขระ char
-E ‘pattern1 .* pattern2’
ค้นหา pattern1 และ pattern2
-E ‘pattern1 | pattern2’
ค้นหา pattern1 หรือ pattern2
[:digit:]
เฉพาะตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 9
[:alnum:]
ทั้งตัวอักษร A ถึง Z หรือ a ถึง z และตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 9
[:alpha:]
ตัวอักษร A ถึง Z หรือ a ถึง z
[:blank:]
เฉพาะช่องว่าง (Space) และแท๊ป (TAB) เท่านั้น
find, grep คำสั่งค้นหาข้อความและไฟล์ด้วยชุด Regular Expressions